จากครั้งก่อน ที่เขียนเรื่อง เจอลูกแมวที่ซอกใต้หลังคา ซึ่งเรื่องนี้ ชีวิตลูกแมวจร คงเป็นตอนต่อจากเรื่องที่แล้ว ด้วยความที่เรามีช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักชีวิตลูกแมวจรกลุ่มนี้ แบบใกล้ชิดติดฝาบ้าน ลูกแมวที่แมวแมวพามาฝากชีวิตหลบฝน เอาชีวิตรอดกันร่วมอาทิตย์ การป้องกันตัว ความรัก ความผูกพัน เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น

ให้นมลูกแมว
ลูกแมวจุ่มหน้ากินนมด้วยความหิว

กลายเป็นแม่นมชั่วคราวให้ลูกแมว

หลังจากที่เจอ เราก็หาซื้ออาหารแมว Kitten ตั้งแต่หย่านม ถึง 1 ขวบ มาวางไว้ให้ พร้อมน้ำ โดยตอนเช้า เอานมที่ไม่มีแลคโตสมาวางไว้ให้ ลืมไปว่า จริงๆ น่าจะใช้นมแพะ ลูกแมวน่าจะย่อยได้ดีกว่า แต่ก็เอาเถอะ เห็นลูกแมวจุ่มหน้าลงไปกินนมแล้ว ดูจะนมอะไรก็ได้แล้วล่ะ หิวขนาดนี้ ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นประมาณ 3-4 วัน จนเริ่มคิดว่า เอ๊ะ แม่แมวไม่มาเลย ทิ้งไปแล้วรึป่าว แล้วเราควรต้องทำยังไงดี

ลูกแมวที่ใต้หลังคา
ช่องใต้หลังคา ที่ซ่อนลูกแมว

แผน 1 เลี้ยงลูกแมวจรบนหลังคา รอแม่แมว

เราเอานม ข้าวแมว และน้ำวางไว้ พร้อมเอาเสื้อเก่าผ้านุ่มๆ วางไว้ให้เป็นที่นอนให้ลูกแมวได้ซุกตัว อย่างน้อยลูกแมวก็ได้อิ่มท้อง มีที่นอนนุ่มๆ แต่แผนนี้ มีปัญหาตรงที่ เราไม่รู้เลยว่า แม่แมวจะกลับมามั้ย ติดต่อก็ไม่ได้ และตอนนี้ซอกหลังคาที่ต่อกับช่องหน้าต่างในครัว เริ่มมีกลิ่นจากการไม่ถูกสุขลักษณะในการอยู่ของลูกแมว ซึ่งเราก็คงแค่เหม็น แต่ลูกแมว ถ้าปล่อยแบบนี้ มีอันป่วยแน่

แผน 2 หาบ้านให้ลูกแมวจร

เราเริ่มถามพี่ข้างบ้าน และคนรักแมวในหมู่บ้านก่อน แต่การหาบ้านให้ลูกแมวตอนนี้ ไม่ง่ายเลย บ้านที่เขารักแมว เขาก็มีแมวอยู่แล้ว ไม่พร้อมจะรับแมวเพิ่ม ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แล้วพอไปถามคนที่ไม่รักแมว แน่นอนเขาไม่มีแมว แต่เขาก็ไม่มีวี่แววจะรักแมวและไม่เคยคิดจะรับเลี้ยงแมวอยู่แล้ว หรือจะลงเพจแมวหาบ้าน ก็รู้สึกว่า ทางเพจเองก็มีแมวหาบ้านเยอะอยู่แล้ว เราน่าจะช่วยเขาแบ่งเบามากกว่า เราเลยคุยกับพี่ข้างบ้าน ซึ่งมีแมวอยู่แล้วตัวนึงเหมือนเรา คิดว่าจะแบ่งกันเลี้ยงดูแมว เลี้ยงอยู่บริเวณชานบ้านก็ได้ แล้วช่วยกันหารค่าดูแลแมว แต่จะให้เอาเข้าบ้านคงไม่ได้ เพราะเราต่างมีคนแก่ในบ้านที่ไม่ชอบแมวนัก ก็เลยยึดตามแผนนี้

พาลูกแมวจรไปหาหมอตรวจร่างกายและทำวัคซีน

มีลูกแมวจร 2 ตัวที่ตกลงมาตรงช่องหน้าต่าง เราเลยได้โอกาสจับ 2 ตัวนี้ไปหาหมอ ปรากฏว่า ลูกแมวยังเล็กเกินกว่าจะทำวัคซีนได้ เพราะอายุน่าจะไม่เกิน 3 อาทิตย์ หมอเลยให้กินยาถ่ายพยาธิ และให้ยาก้างปลามาป้อนประมาณ 10 วัน เพราะหมอว่าลูกแมวจรที่เห็นพุงป่องๆ นี่ มาจากพยาธิเป็นส่วนมาก ควรกินยาถ่ายพยาธิไว้เลย และช่วงนี้แมวเป็นหวัดเยอะ และเป็นแรงด้วย หมอเลยให้ยาก้างปลามาป้อน

พาลูกแมวไปทำวัคซีน
เอาเสื้อเก่านุ่มๆ วางรองให้ลูกมวนั่งให้อุ่นๆ ลดการตื่นกลัว

แยกโซนลูกแมวจร ออกจากแมวบ้าน

หมอแนะนำว่า ยังไม่ควรพาลูกแมวจรเข้ามาอยู่ร่วมกับแมวในบ้าน ควรให้แยกอยู่จนกว่าจะตรวจโรค และทำวัคซีนหลักๆ อย่าง หัดหวัดแมว, ลิวคีเมีย, พิษสุนัขบ้าน ก่อน เพื่อความปลอดภัย เราเลยไปหากรงเพื่อให้ลูกแมวพักอยู่ ลูกแมวเลยได้มีโอกาสเจอแมวยักษ์ โอ้ ไม่ใช่ แมวคุณชายโกเมส ครั้งแรกของกันและกัน

ดูโกเมสคุณชายตอนเจอลูกแมวจรครั้งแรก

แล้วแม่แมวก็กลับมาหาลูกแมวตามสัญญา

เย็นนั้น ได้ยินเสียงลูกแมวร้องกันระงม นึกว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่า ลูกแมวดีใจ แม่แมวกลับมาหา ร้องดีใจสุดขีด เราเลยรีบพาลูกแมวจร 2 ตัวที่อุ้มไปหาหมอ พากลับเข้ากลุ่ม ทั้งสองวิ่งไปหาแม่แมวอย่างมีความสุข ดีใจกับลูกแมวทุกตัวจริงๆ

แม่แมวจรสีสวยมาก ตาสีฟา
แม่แมวมาขอบคุณที่ช่วยดูแลเด็กๆ

ความรัก สิ่งที่สัมผัสได้ของสิ่งมีชีวิต

วันที่แม่แมวจะขนลูกๆ ย้ายที่อยู่ หนึ่งในแมวที่เราอุ้มพาไปหาหมอ ตกลงมาในซอกหน้าต่างอีกครั้ง เหมือนว่าจะให้เราอุ้มอีกครั้ง เหมือนจะบอกขอบคุณ เหมือนอยากมาบอกลา ก่อนที่จะไปกับแม่แมวที่ยืนรออยู่  เราว่าเราไม่ได้รู้สึกไปเองนะ ลูกแมวจรตัวนี้ ไม่มีทีท่าขัดขืนหรือกลัวแล้ว ตอนที่เราใช้มืออุ้มออกจากซอก เราเองก็อยากขอบคุณเหมือนกัน โชคดีนะเจ้าแมวน้อย

ลูกแมวจรน่ารักมาก
ลูกแมวมาหา บอกลาก่อนไปกับแม่แมว

Cat Club ขอรวมเรื่อง เจอลูกแมวจรที่ซอกหน้าต่าง ไว้ในบล็อก เพราะเป็นเรื่องราวชีวิตเล็กๆ บนโลกที่น่ารัก ทำให้เรามองเห็นความรัก ของทั้งคนและแมวบนโลกที่ยิ่งอยู่ยากขึ้นทุกวัน ขอบคุณที่โลกนี้มีแมวอยู่ แต่ถ้าโลกนี้ไม่มีแมวอย่างในหนังสือ If cats disappeared from the world โลกคงน่าเศร้ามากๆ เลย

อ่านเรื่องลูกแมวจรตอน 1 เจอลูกแมวที่ซอกใต้หลังคา