คำว่า “แก่” ถูกบัญญัติให้รู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อคน หรือแมว ถูกใครกล่าวถึงแบบนั้น เช่นเดียวกับเวลาจะเรียกว่าแมวอายุ 7-9 ปี เราก็ยังรู้สึกเกรงใจที่จะเรียกว่าแมวแก่อย่างเต็มปาก ด้วยความที่เรายังไม่รู้สึกว่าแมวแก่เลยสักนิด แต่อาหารแมวที่กินมาพักใหญ่ก็เขียนชัดว่า Cat food 7+ (Senior cat) แต่วันนี้ เราเจอบทความที่บอกว่า แมว 7-9 ปี เป็น แมววัยกลางคน ยังไม่ใช่แมวแก่ หรือแมวสูงวัย ??!! มันยังไง มาทำความรู้จักลักษณะที่บ่งชี้ของแมววัยก้ำกึ่งนี้กัน
แมว 7- 9 ปี จัดเป็น แมววัยกลางคน
แมววัยกลางคน พูดง่ายๆ คือ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของวัยก่อนก้าวสู่การเป็นแมววัยชรานั่นเอง แต่จากที่สังเกตเห็นได้จากโกเมส แมวคุณชาย แม้จะอายุครบ 9 ปีเต็ม แต่ท่าทีของโกเมส ไม่ต่างจากแมววัย 5-7 ปี ยังคงชอบเล่นเหมือนเด็ก อยากรู้อยากเห็น คล่องแคล่ว จะมีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ คือ คุณชายขี้เกียจออกไปเดินเล่นนอกบ้านมากขึ้น, ไม่ยอมยืน 2 ขาโชว์ เวลาตะปบของเล่นเหมือนเมื่อก่อน และที่สำคัญนอนเก่งมาก ซึ่งตรงกับบทความที่เจอ ของ Vetstreet ที่เล่าว่าเราจะเห็นอะไรในแมวอายุ 7-9 ปี
ลักษณะแมววัยกลางคน ก่อนเป็นแมวแก่
จากช่วงอายุ 5-6 ปี ซึ่งเป็นแมววัยรุ่น ก้าวสู่แมวอายุ 7-9 ปี เป็นแมววัยกลางคน ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนสู่การเป็นแมวสูงวัย หรือ แมวแก่ อย่างที่เราเรียกกันง่ายๆ แมวอาจแสดงลักษณะบางอย่างเพียงเล็กน้อยที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในวัย แบบที่เราอาจไม่ทันสังเกต เห็นจากภายนอก ได้แต่รับรู้ว่า เจ้าเหมียวของเรา ไม่ได้เป็นแมวเด็กอีกต่อไป
- แมวจะนิ่งขึ้น ไม่กระโดด เล่นโลดโผน หรือออกไปสำรวจที่ใหม่ๆ แต่จะอยู่นิ่งๆ ในที่ของตัวเอง
- แมวเครียดง่ายขึ้น ในสภาวะเสียงดัง วุ่นวาย หรือถ้าต้องปรับเปลี่ยนที่ เช่น ย้ายบ้าน บอกเลย แมวเครียดง่ายกว่าที่คิด
- แมวจะอ้วนง่ายขึ้น เพราะกิจกรรมที่เล่นลดลง แมวจึงมีแนวโน้มจะน้ำหนักขึ้นง่าย แม้จะกินอาหารเท่าเดิม และลดขนมแล้วก็ตาม ต้องคอย เช็ค ว่าแมวอ้วนไปรึยัง

แมวอายุเท่าไร ถึงเรียกว่าแมวแก่ หรือแมวชรา
Royal Canin จัดให้แมวอายุ 11 ปี เป็นแมวสูงวัย โดยเราจะสังเกตสัญญาณและพฤติกรรมแมวที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เข้ากับคนยากขึ้น ขนนุ่มลื่นน้อยลง มีสีขาวแซม แมวเริ่มเดินไม่มั่นคง แต่งขนน้อยลง ส่วนภายในร่างกาย ระบบย่อยอาหาร และภูมิคุ้มกัน จะมีประสิทธิภาพในการทำงานได้น้อยลง มีปัญหาช่องปาก การดมกลิ่นไม่ดี และแมวเริ่มไม่แข็งแรงเหมือนเดิม แมวสูงวัยจึงต้องการอาหารเฉพาะ เพื่อชะลอความเสื่อมและการเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆ
การดูแลแมววัยกลางคน ให้เป็นแมวแก่ที่แข็งแรง
เมื่อแมวเริ่มอายุมากขึ้น แมวจะวิ่งเล่น กระโดด และกิจกรรมผาดโผนน้อยลง ซึ่งหมายถึง แมวจะได้ออกกำลังกายน้อยลง แมวอายุมากจึงมักอ้วนง่าย (ลดน้ำหนักยาก) แบบเดียวกับคน การจัดหาอาหารแมว จึงต้องคำนึงถึงการดูแลเรื่องสารอาหารที่จำเป็นสำหรับแมววัยนี้ เช่น ควรเป็นอาหารที่ให้แคลลอรี่น้อยลง เพื่อรักษาหุ่นให้แมวเดินสวยๆ ได้อยู่ และป้องกันโรคอ้วน และโรคอื่นๆ ที่ตามมา ควรพาแมวไปตรวจเลือด ตรวจสุขภาพแมว เป็นประจำ ปีละ 2 ครั้ง หรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อดูผลรวมสุขภาพ ทั้งค่าตับ ค่าไต เม็ดเลือดขาว และแดง ที่จะแสดงในผลเลือด
- จัดหาอาหารแมวให้ได้สารอาหารเหมาะสมกับวัย เพื่อสารอาหารที่จำเป็น อาทิ กลูโคซามีน คอนดรอยติน และกรดไขมันอิสระประเภท EPA/DHA และลดส่วนที่ไม่จำเป็น อย่างไขมันลง
- สังเกตแมวให้มาก หากมีอาการซึม เบื่ออาหาร ควรรีบพาไปหาหมอแต่เนิ่นๆ
- ตรวจสุขภาพแมวเป็นประจำทุกปี หรือ ถ้าได้ปีละ 2 ครั้ง จะดีมาก
เราจะเติบโตและแก่ไปด้วยกันกับแมว
เรามีช่วงเวลาดีๆ กับแมวมาตลอดช่วงชีวิต เราเองก็ยังสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายตัวเอง และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรม และอาหาร เพื่อดูแลสุขภาพ แมวก็เช่นเดียวกัน แมวอายุระหว่าง 7-9 ปี แม้ทางทฤษฎีอาจจะเรียกว่าเป็นเพียงแมววัยกลางคน แต่ก็อีกไม่นาน แมวจะก้าวสู่การเป็นแมวสูงวัยเต็มตัว ร่างกายที่เปลี่ยนแปลง ต้องการการเรียนรู้ ดูแลเอาใจใส่ที่มากขึ้น
เมื่อแมวอายุมากขึ้น อาจไม่ได้ปราดเปรียว ร่าเริง เหมือนก่อน แต่ความเป็นแมวดื้อ น่ารัก ขี้อ้อน ตลก ในแบบของแมวตัวนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรายิ้มได้ หัวเราะง่ายๆ ยังมีอยู่ครบ Cat club ขอให้แมวและทาสแมวทุกคน มีความสุข น่ารักสมวัย ดูแลกันไปให้มีความสุขกันไปนานๆ
ขอบคุณบทความจาก Vetstreet
ใส่ความเห็น