ใครมีโอกาสไปเยือนเทพฯบาร์ คอนเซปต์บาร์ไทยๆ ในตรอกเล็กๆ แถวซอยนานาย่านเยาวราชที่ใส่ความเป็นไทยทุกรายละเอียดตั้งแต่ อาหาร เครื่องดื่ม พนักงาน เพลง และแมว “อีฟัก” แมวไทยสีส้ม พีอาร์ประจำเทพฯบาร์ ที่ใครไปใครมาก็ต้องชักภาพกับนาง จนทีมงานชวนให้เข้าไปดูแฮชแท็ก #efukthecat ก่อนจะเล่าที่มาของ “อีฟัก” ให้ฟัง
“แทบทุกคนไม่ว่าคนไทย ฝรั่ง ที่มาเทพฯบาร์ ต่างก็ประหลาดใจและสนใจแมวไทยตัวกลมตัวนี้ ที่มักจะวนเวียนอยู่แถวๆ ร้าน เรียกได้ว่านางอยู่คู่กับเทพฯบาร์มาตั้งแต่วันแรกๆ เลยทีเดียว ‘ อีฟัก ‘ ไม่ได้เป็นแมวเลี้ยงของบ้านไหนในย่านนั้น นางเป็นแมวเพศเมียรุ่นกลางคน ไม่ค่อยสบายเต็มร้อยนักเพราะขาหน้าเจ็บ ทำให้เวลาเจอที่ที่ชอบ อีฟักก็จะนั่งอยู่ตรงนั้นนาน หลับเคลิ้ม ตื่นมากิน และนั่งทักทายผู้คนที่เดินไปมา ตอนเปิดเทพฯบาร์เดือนแรกๆ ทางร้านจะมีแคร่ไม้ไผ่วางไว้รับลูกค้าหน้าร้าน มันเหมือนกับแมวตัวนี้ถูกกำหนดมาให้รู้จักและทำหน้าที่ที่ร้านนี้จริงๆ มันจะวนเวียนมานอนทุกวันหน้าร้าน โดยเฉพาะช่วงเพลงไทยเดิมบรรเลงสด นางจะนอนฟังหน้าเคลิ้ม นางรักเพลงไทย”
“ทีมเทพฯบาร์ มอบชื่อ ‘ อีฟัก ‘ ให้แมวไทยนางนี้ ด้วยความเป็นไทย ชื่อสัตว์เลี้ยงสมัยก่อนต้องสั้น เรียกง่าย และเป็นคำไทยแท้ คำไทยสั้นๆ ที่เหมาะที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่มาเทพฯบาร์ที่จะออกเสียงง่าย จำง่าย คงไม่มีคำไทยไหนเหมาะเท่าคำนี้ ‘ อีฟัก efuk ‘ ด้วยความที่เป็นแมวพีอาร์ในยุคนี้ ยุคที่ทุกคน ชู๊ต แอนด์ แชร์ ทางเทพฯบาร์เลยคิดว่านางควรจะมีแฮชแท๊กเป็นของตัวเอง เพื่อเป็นอีกช่องทางสำหรับแชร์มุมน่ารัก มุมเหวอ ของนาง #efukthecat จึงกำเนิดตั้งแต่วันนั้นพร้อมกับที่นั่งประจำของอีฟักนั่นเอง”
“ที่นั่งประจำหน้าร้านของอีฟักคือเตาอั้งโล่ ซึ่งเป็นเตาที่เทพฯบาร์ใช้ปิ้งอาหารแบบโชว์เคสอยู่กลางร้าน และได้นำมาจัดไว้หน้าร้านด้วย เพื่อให้ลูกค้าที่ยืนรอหน้าร้านได้หย่อนใส่เศษขยะเล็กๆ น้อยๆ แต่บังเอิญเตาที่อยู่หน้าร้านไม่ได้เป็นทรงกลม แต่เป็นทรงรูปไข่รีๆ ที่เหมาะและฟิตพอดีตัวอีฟัก ราวกับออกแบบมาให้นางโดยเฉพาะ อีฟักได้เริ่มทดลองลงไปนอนเองตอนที่เตาว่างๆ แล้วก็ติดใจ แต่ถ้ามีขยะหรือก้นบุหรี่อยู่นางจะไม่ลงไปเด็ดขาด ทีมงานจึงจัดวางไหอลูมิเนียมเคลือบสีแดงให้ลูกค้าแทนที่เตา แล้วก็ยกเตาอั้งโล่ให้เป็นที่นอนของอีฟัก จนเป็นที่มาของฉายา ‘ แมวเตาถ่านแห่งเทพฯบาร์ ‘ อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันนั้น”
“มีครั้งนึงอีฟักก็หายตัวไปนาน จนที่ร้านคิดว่านางจะไม่กลับมาแล้ว ทุกคนก็คิดถึงอีฟัก แต่ไม่นานนางก็กลับมาพร้อมลูกแมวตัวเล็กๆ สีเดียวกันเป๊ะมาด้วยอีกตัว ทุกคนเลยสันนิษฐานเอาว่า อีฟักคงท้องไม่ใหญ่พอที่จะสังเกตเห็น และนางคงแอบไปคลอดเองตามธรรมชาติ และพอไหวก็เลยพาตัวน้อยมาให้ที่ร้านช่วยดูแล เพราะเชื่อมั่นว่าทุกคนคงรักตัวน้อยเหมือนรักอีฟัก ทีมเทพฯบาร์เลยตั้งชื่อตัวเล็กนี้ง่ายๆ รับกับอีฟัก ว่า ‘ไอ้แฟง’ และทั้งสองก็กลายเป็นเจ้าถิ่นคู่ดูโอซอยนานา”
“ถึงอีฟักและไอ้แฟงจะเรียบร้อยในที ไม่เกะกะเกเร แต่ว่าอย่ามีแมวต่างถิ่นมาแหยมนะ มันจะแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ ทั้งขู่และซ่า ไม่ยอมใคร บางคราวก็ถูกกัดมาอ่วมก็มี ความที่ขาอีฟักก็วิ่งได้ไม่เร็ว ทีมเทพฯบาร์ต้องพาไปหาหมอบ่อยมากจนสนิทสนมกับอีฟัก ส่วนเรื่องอาหารการกินความเป็นอยู่ของ ฟัก แฟง ก็ง่ายๆ กินอาหารเม็ด บางทีเบื่อ ก็สลับไปเป็นอาหารสดเช่นปลาทู”

“ตอนนี้ อีฟัก ไอ้แฟง เป็นคู่แมวแผนกต้อนรับของเทพฯบาร์ ด้วยค่าจ้างเป็นการดูแลใส่ใจด้วยความรักจากทุกๆ คนในทีมเทพฯบาร์ ลูกค้า และคนที่ติดตามในเพจฯ ต่างก็รู้จักจำได้ เพราะทั้งสองถูกขึ้นรูปโปรโมทกิจกรรมอยู่เนืองๆ ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปแถวนั้นก็อย่าลืมหาโอกาสแวะไปทักทาย ถ่ายรูปพร้อมเช็คอินกับอีฟักและไอ้แฟง แมวคู่ดูโอเจ้าถิ่นซอยนานานะคะ รออยู่น๊าาา”
ขอบคุณทีมงานเทพฯบาร์ สำหรับเรื่องราวและรูปจาก #efukthecat เราได้ไปคุยกับอีฟักมาแล้ว นางเรียบร้อย น่ารัก จนอยากรู้จักเป็นการส่วนตัว วันไหนแวะไปเทพฯบาร์ ทักนางด้วยนะ Cat club บอกเลย ใครเห็นก็ต้องรักนาง
3 Pingback